เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2564 นางสาวพรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้เป็นผู้แทนมอบเงินบริจาคโดยรัฐบาลไทยให้แก่โรงพยาบาล Soroka Medical Center ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Beer Sheva โดยเป็นโรงพยาบาลหลักในเขต Negev ภาคใต้ของอิสราเอลที่ให้บริการแก่ประชาชนทางภาคใต้ในเขตทะเลทรายครอบคลุมพื้นที่ร้อยละ 60 ของอิสราเอลตั้งแต่เมือง Beer Sheva จนถึงเมือง Eilat มีสถิติการรับผู้ป่วยกรณีฉุกเฉินจำนวน 2 แสนรายต่อปี โดยโรงพยาบาลได้รักษาแรงงานไทยที่ทำงานและพักอาศัยในพื้นที่ตอนใต้ของอิสราเอลครอบคลุมเขตอราวาและพื้นที่ใกล้เคียงฉนวนกาซามาอย่างต่อเนื่อง
โอกาสนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลที่ดูแลและให้การรักษากรณีฉุกเฉินแก่แรงงานไทยในพื้นที่โดยไม่แบ่งแยกว่าเป็นแรงงานที่มีประกันสุขภาพหรือไม่ โดยเอกอัครราชทูตฯ ได้พบหารือกับ ดร. Shlomi Codish ผู้อำนวยการใหญ่ของโรงพยาบาลฯ เกี่ยวกับการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างสถานเอกอัครราชทูตฯ กับโรงพยาบาลฯ ในการดูแลให้การรักษาพี่น้องแรงงานไทยในพื้นที่ รวมทั้งความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลฯ กับสถาบันทางการแพทย์ต่าง ๆ ในประเทศไทย โดยเฉพาะในสาขาอุบัติเหตุและเวชกรรมฉุกเฉิน (Trauma Unit) ซึ่งเป็นสาขาที่โรงพยาบาล Soroka Medical Center มีความเชี่ยวชาญในระดับโลก
หลังจากนั้น เอกอัครราชทูตฯ ได้เยี่ยมชมศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังอาการผู้ป่วยโควิด-19 วิกฤตของโรงพยาบาลฯ ซึ่งใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการติดตามและเฝ้าระวังอาการของผู้ป่วยวิกฤตทุกราย และแผนกรักษาผู้ป่วยอุบัติเหตุและเวชกรรมฉุกเฉิน รวมทั้งได้รับฟังบรรยายเกี่ยวกับการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมทางการแพทย์ (Innovation Center) ของโรงพยาบาลฯ ซึ่งจะเน้นการเสริมสร้างความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ดีระหว่างบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลฯ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษาทั้งในอิสราเอลและต่างประเทศ
ต่อมา เอกอัครราชทูตฯ ได้เดินทางไปร้านอาหาร “Kampai” ในเมือง Beer Sheva โดยได้พบปะและซักถามความเป็นอยู่ของพ่อครัวชาวไทยที่ทำงานในร้านอาหารดังกล่าวด้วย